ท่ามกลางกระแสการหวนกลับคืนมาของรองเท้ารุ่นเก่าที่พี่ (หรือพ่อ) เราเคยใส่สมัยก่อน หนึ่งในรองเท้ารุ่นที่ได้รับการตอบรับสูงที่สุดมาตั้งแต่เริ่มคัมแบ็กวงการคือ Nike Dunk ซึ่งถูกจับตามองจากตลาดสนีกเกอร์ว่าจะเป็นรองเท้าในฝันของนักสะสมเลยทีเดียว โดยเฉพาะสีพระเอกที่มีทั้งความเท่และความคิวต์ในคู่เดียวกันอย่างสี ‘White-and-Black’ ที่เรียกกันติดปากว่ารุ่น ‘Panda’
ชื่อ Panda นี้นอกจากจะมาจากสีขาวดำแล้ว ยังอาจหมายถึงความแรร์ ความหายาก ซึ่งก็เหมือนกับเจ้าแพนด้า ซึ่งเป็นหนึ่งในสัตว์สงวนระดับหายากที่สุดของโลก และนั่นทำให้เมื่อครั้งที่รองเท้า Dunk Panda ออกวางตลาดครั้งแรกในช่วงต้นปี 2021 กระแสความคลั่งไคล้ของเหล่าสนีกเกอร์เฮดทำให้ราคาของรองเท้ารุ่นนี้พุ่งสูงอย่างมาก
หนึ่งในคนรักรองเท้าสนีกเกอร์เมืองนอกอย่าง แซ็ค โจนส์ คือคนกลุ่มแรกๆ ที่ยอมจ่ายเงินถึง 280 ดอลลาร์ หรือกว่า 9,400 บาท ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาป้ายถึง 2 เท่าครึ่งเพื่อให้ได้ครอบครองมัน โดยเขาต้องไปซื้อจากตลาดรีเซลของรองเท้าสนีกเกอร์ เพราะไม่สามารถที่จะไป ‘กด’ ได้โดยตรงจากผู้ผลิตของ Nike
สำหรับนักสะสมแล้ว การได้ครอบครองรองเท้าที่ชอบและใส่แล้วมีความเท่ ราคาอาจจะไม่ใช่เรื่องปัญหา แต่ปัญหามันเกิดจากการที่ Nike ทำในสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อยักษ์ใหญ่รองเท้ากีฬาจากสหรัฐอเมริกามีการผลิตรองเท้า ‘Panda’ ซ้ำ และไม่ใช่ซ้ำแค่ครั้งเดียวด้วย แต่เป็นการซ้ำนับสิบครั้ง และแน่นอนว่าจะกี่ครั้งก็แทบไม่มีใครกดรองเท้าได้ทัน ในขณะที่พ่อค้ารีเซลก็จะโพสต์รูปรองเท้าที่ว่าหายากกองเป็นตั้งๆ ไม่รู้ไปหามาจากไหน (ประชด!)
เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่ทำร้ายจิตใจของนักสะสมอย่างมาก ซึ่ง แซ็ค โจนส์ นักศึกษาจากยูทาห์เคยนับเล่นๆ ในระหว่างการไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์กับครอบครัวเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า มีคนใส่รองเท้าเหมือนเขากี่คน? ปรากฏว่าในดิสนีย์แลนด์วันนั้นมีคนใส่ Panda ที่เขาเห็นถึง 75 คน
“มันเหมือนกับตอนที่ Facebook เพิ่งออกมาเลย ตอนแรกก็เป็นเด็กรุ่นใหม่ สักพักบรรดาแม่ๆ ก็เริ่มโผล่เข้ามาใน Facebook” โจนส์กล่าว “และทำให้มันไม่เท่อีกแล้ว”
ความรู้สึกนี้ไม่ได้เกิดกับโจนส์คนเดียว แต่เกิดขึ้นกับเหล่าสนีกเกอร์เฮดที่เปลี่ยนความรู้สึกจากชื่นชอบและชื่นชมเป็นความเบื่อหน่ายและรำคาญจนแทบไม่อยากจะเห็น Nike Dunk Low Retro White Black รุ่นนี้เลยทีเดียว
ปรากฏการณ์ Panda เกลื่อนเมืองทำให้ นอร์มา โมเรโน โปรดิวเซอร์ของบริษัทแห่งหนึ่งในไมอามี ซึ่งเป็นอีกคนที่ยอมควักเงินมากมายเพื่อแลกกับรองเท้า Panda ในเวฟแรก ตัดสินใจที่จะยกมันให้กับคนอื่น เพราะรู้สึกว่าสูญเสียความพิเศษบางอย่างไปแล้ว และสำหรับสนีกเกอร์เฮดบางคน Dunk Panda อาจมีส่วนทำลายวัฒนธรรมของชาวสนีกเกอร์ ที่เชื่อมั่นว่าการมีรองเท้าหายากคือหนึ่งในสิ่งที่จะสะท้อนบุคลิกตัวตนที่โดดเด่นของตัวเองออกมา
อย่างไรก็ดี ในความสูญเสียของเหล่าสนีกเกอร์เฮด บรรดารีเซลเลอร์ทั้งหลายไม่มีวันเปลี่ยนใจไปจาก Dunk Panda อย่างแน่นอน เพราะถึงเวลาจะผ่านมา 2 ปีแล้ว แต่รองเท้ารุ่นนี้ สีนี้ ก็ยังเป็นรองเท้าที่ขายดีที่สุดตลอดกาลเหมือนเดิม ถึงราคาอาจจะตกลงมาบ้างแต่ก็ยังซื้อง่ายขายคล่อง และต่อให้รีสต๊อกเติมของอีกกี่ครั้งก็ยังเป็นที่ต้องการเสมอ
หนึ่งในเหตุผลเป็นเพราะรองเท้ารุ่นนี้เป็นที่นิยมของบรรดาดารา บุคคลมีชื่อเสียง และเป็นธรรมดาที่คนทั่วไปที่ไม่ใช่สนีกเกอร์เฮดเห็นก็อยากจะใส่รองเท้าตามคนที่พวกเขาชื่นชอบบ้าง ซึ่งไม่ใช่แค่วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ แต่รวมถึงเด็กๆ เองก็อยากจะเป็นเหมือนฮีโร่ของพวกเขาบ้าง
ย้อนกลับไปก่อนหน้าที่จะถึงการรีสต๊อกรอบล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มกราคม ซึ่งมีการปล่อย Dunk Panda ออกมาอีกประมาณ 150,000 คู่ และยังมีเก็บอยู่ในสต๊อกอีกมากกว่า 500,000 คู่ที่จะรอวันรีสต๊อกอีกครั้ง
หนึ่งในนักกีฬาที่โด่งดังและมีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐฯ อย่าง อเล็กซ์ มอร์แกน กองหน้าคนสวยทีมชาติฟุตบอลหญิงสหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร GQ ว่า ไอเท็มอันดับ 1 ของเธอคือ Dunk Panda คู่นี้ และนั่นทำให้รองเท้าของ Nike ยิ่งเป็นที่ต้องการมากขึ้นไปอีก (และใช่ มอร์แกนเป็นนักกีฬาที่มีสัญญากับ Nike!)
ระหว่างการเป็นรองเท้าหายากกับการเป็นรองเท้าที่ใครก็หาใส่ได้ จึงอาจไม่ใช่เรื่องที่พูดกันได้ว่าถูกหรือผิดเสียทีเดียว