นักวิเคราะห์แนะ Nike เร่งระบายสินค้าคงคลังมูลค่ากว่า 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ต้องไม่ใช่วิธีลดราคา เพราะอาจทำให้กลับไปขายราคาเต็มไม่ได้อีกหรือยากขึ้น พร้อมบุกหนักตลาดจีน หลังไตรมาสล่าสุดยอดขายเพิ่มขึ้น 6%

Business Insider รายงานว่า Bob Woodell ผู้บริหารระดับสูงของ Nike กล่าวว่า ขณะนี้สินค้าคงคลังของ Nike อยู่ในระดับสูงขึ้นมาก โดยได้เปรียบให้เห็นภาพอีกว่าเหมือนมะเร็งที่จะกำลังกัดกินร่างกายเรา ถ้ายังไม่แก้ไขอาจจะได้รับผลกระทบในอนาคต

นักวิเคราะห์ของ Wall Street ระบุว่า สิ่งสำคัญที่ Nike ต้องปรับตัวเป็นอันดับแรกคือ ต้องเร่งระบายสินค้าคงคลัง และทำให้ยอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นในประเทศจีน พร้อมกับการรับมือการแข่งขันกับ adidas ที่เพิ่งมีแม่ทัพคนใหม่อย่าง Bjorn Gulden

หากย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2022 Nike รายงานว่าสินค้าคงคลังเพิ่มขึ้น 43% โดยได้นำสินค้าทั้งรองเท้าและเสื้อผ้าออกมาลดราคาเพื่อล้างสต๊อก และหากคิดมูลค่าสินค้าในคลังรวมๆ แล้วมากกว่า 9.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ยิ่งไปกว่านั้นผู้บริหารของ Nike มองข้ามสินค้าคงคลังที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสังเกตจากความต้องการของผลิตภัณฑ์ และผลกระทบของห่วงโซ่อุปทานที่ส่งผลต่อร้านค้าปลีกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

Brian Yarbrough นักวิเคราะห์วิจัยอาวุโสของ Edward Jones กล่าวว่า ระดับสินค้าคงคลังจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนแปลงของปี 2023 และเมื่อไรก็ตามที่แบรนด์นำสินค้ามาลดราคา ต่อไปปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือจะสามารถกลับไปใช้ราคาเต็มแบบเดิมได้หรือไม่

ทั้งนี้ ตลาดจีนยังเป็นปัญหาหลักของ Nike เพราะจีนเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนมาก และผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความเชี่ยวชาญในการสั่งสินค้าผ่านช่องทางดิจิทัล 

แต่ในทางกลับกัน ยอดขายของ Nike  ในจีน ปีงบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 พฤษภาคม 2022 ลดลง 9% เหลือ 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจีนคิดเป็น 17% ของยอดขายรวม Nike 

Poonam Goyal นักวิเคราะห์อีคอมเมิร์ซและกีฬาอาวุโสของ Bloomberg Intelligence ระบุว่า ตลาดจีนเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตของแบรนด์กีฬาหลายแบรนด์ ไม่ใช่แค่ Nike ซึ่งหากไม่ปรับตัวก็จะไม่เห็นการฟื้นตัวในเร็วๆ นี้

ก่อนหน้านี้ Simeon Siegel กรรมการผู้จัดการฝ่ายวิจัยตราสารทุนของ BMO Capital Markets กล่าวว่า ดูเหมือน Nike จะพลิกมุมในตลาดจีน เห็นได้จากรายงานยอดขายไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 พฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 6% ในจีน 

John Donahoe ซีอีโอ Nike กล่าวต่อไปว่า ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา บริษัทเริ่มประสบความสำเร็จในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และยังเชื่อว่าจีนยังคงเป็นตลาดที่มีการเติบโตและมีศักยภาพ โดยเฉพาะหลังจากการเปิดประเทศ 

ด้านนักวิเคราะห์ยังให้มุมมองอีกว่า Bjorn Gulden ซีอีโอคนใหม่ของ adidas ซึ่งเคยทำงานเป็นซีอีโอของ PUMA มาก่อน จะสามารถเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้ adidas สามารถแข่งขันกับ Nike ได้มากขึ้น