Nike เปิดตัวรองเท้ารุ่น ใหม่สองรุ่น ได้แก่ Vaporfly 4 และ Streakfly 2 ผ่านไปแปดปีนับจากวันที่เปิดตัวรองเท้ารุ่นแรก รองเท้า Vaporfly 4 ถือเป็นรุ่นที่เบาที่สุดในประวัติศาสตร์ของแฟรนไชส์ และได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับนักกีฬาชั้นนำของ Nike รวมถึง Joshua Cheptegei และ Mohammed Ahmed เพื่อสร้างรองเท้ารุ่นที่มีความอเนกประสงค์มากที่สุด

Nike Vaporfly 4 ยังคงใช้โฟม ZoomX และ Flyplate คาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Nike โดยยัง คงใช้ระยะทางตั้งแต่5 กิโลเมตรไปจนถึงมาราธอนแต่แรงขับเคลื่อนได้รับการปรับแต่งให้ดีขึ้นด้วยส่วนโค้งของ Flyplate ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ซึ่งทางแบรนด์ระบุว่าสิ่งนี้ช่วยให้สามารถยกน้ำหนักจากเท้าและข้อเท้าได้ รวมถึงยังช่วยส่งพลังงานกลับคืนมาจากโฟม ZoomX อีกด้วย

โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรุ่นก่อนๆ รูปร่างของรองเท้ายังมุ่งหวังที่จะผสมผสานความเสถียรของ Vaporfly 3 เข้ากับความนุ่มนวลของ Vaporfly 2 อีกด้วย ในแง่ของการออกแบบพื้นรองเท้าชั้นกลางใหม่นั้น มีการลดน้ำหนักด้วยการขจัดโฟมในส่วนที่ไม่จำเป็น ในขณะที่ส่วนบนใหม่จะเพิ่มความสะดวกสบายและความพอดีที่สม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็ลดน้ำหนักโดยรวมของรองเท้าลงร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

นอกจากนี้ Nike Streakfly ยังกลับมาอีกครั้งเป็นฤดูกาลที่สอง โดยเป็นรองเท้าวิ่งสไตล์เก่าที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งระยะสั้นบนท้องถนน รวมถึงวิ่งเป็นช่วงๆ และฝึกซ้อมความเร็วอีกด้วย
รองเท้า Streakfly 2 สร้างขึ้นจากพื้นรองเท้าแบบสไปค์ รุ่นสุดท้าย ทำให้รองเท้ารุ่นนี้มีท่าทางที่ดุดันด้วยระยะห่างระหว่างส้นถึงปลายเท้า 4 มม. แผ่นรองรองเท้า Pebax ของ Streakfly รุ่นเดิมถูกถอดออก และใช้ Flyplate เต็มความยาวแทน ซึ่งคล้ายกับ Vaporfly 4 เพื่อช่วยในการขับเคลื่อน ขณะที่พื้นรองเท้าชั้นนอกได้รับการอัปเกรดด้วยรูปแบบใหม่และยาง
รองเท้ารุ่น Vaporfly 4 และ Streakfly 2 ใหม่ทั้งสองรุ่นเข้าร่วมไลน์ผลิตภัณฑ์รองเท้าสำหรับการแข่งขันของ Nike ซึ่งได้แก่ รองเท้าวิ่งมาราธอน Alphafly 3และรองเท้าวิ่งซูเปอร์เทรนเนอร์ Zoom Fly 6 ทั้งสองรุ่นจะวางจำหน่ายทั่วโลกที่ nike ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2025 ทั้งในสีแดง/เขียว และสีขาว/ดำ/ส้ม รองเท้าและเสื้อผ้าจาก Nike (ไนกี้)